เมนู

ท่านพระอานนท์ได้กล่าวกะท่านสุภัททปริพาชกว่า ไปเถิด สุภัททะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทานโอกาสแก่ท่าน. สุภัททปริพาชกจึงเข้าไปเฝ้าพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า ชื่นชมกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้ถ้อยคำเป็นที่ชื่นชมให้ระลึก
ถึงกันผ่านพ้นไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. สุภัททปริพาชกกราบทูล
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ สมณพราหมณ์เหล่าใด เป็น
เจ้าหมู่ เป็นเจ้าคณะ เป็นคณาจารย์ มีชื่อเสียง มียศ เป็นเจ้าลัทธิ ชนเป็น
อันมากสมมติว่าเป็นคนดี คือ บูรณกัสสปะ มักขลิโคสาละ อชิตเกสกัมพละ
ปกุธกัจจายนะ สัญชยเวลัฎฐบุตร นิครณฐนาฎบุตร สมณพราหมณ์เหล่านั้น
ทั้งหมดตรัสรู้แล้ว ตามปฏิญญาของตน หรือทั้งหมดไม่ได้ตรัสรู้ หรือว่าบาง
พวกไม่ได้ตรัสรู้. อย่าเลยสุภัททะข้อนั้นหยุดไว้ก่อน. . .

ทรงแสดงธรรมแก่สุภัททะ



เราจะแสดงธรรมแก่ท่าน ท่านจงฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว.
สุภัททปริพาชกทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว. พระผู้มีพระภาค-
เจ้าตรัสว่า ดูก่อนสุภัททะ. อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 หาไม่ได้ในธรรม
วินัยใด แม้สมณะที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น
สุภัททะ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 หาได้ในธรรมวินัยใด แม้สมณะที่ 1
ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 หาได้ในธรรมวินัยนั้น สุภัททะ อริยมรรคอันประกอบด้วย
องค์ 8 หาได้ในธรรมวินัยนี้ สมณะที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ก็มีอยู่ในธรรม
วินัยนี้ ลัทธิอื่น ๆ ว่างจากสมณะผู้รู้ สุภัททะ ก็ภิกษุเหล่านี้ พึงอยู่โดยชอบ
โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย.
[139] ดูก่อนสุภัททะเรามีวัย 29 ปีบวชแล้ว
แสวงหาว่าอะไรเป็นกุศล ตั้งแต่เราบวชแล้ว

นับได้ 51 ปี แม้สมณะเป็นไปในประเทศแห่ง
ธรรมเป็นเครื่องนำออก ไม่มีในภายนอกแต่
ธรรมวินัยนี้.

สมณะที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มี ลัทธิอื่นว่างจากสมณะผู้รู้. สุภัททะ
ภิกษุเหล่านั้นพึงอยู่โดยชอบ โลกไม่พึงว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย.

ติตถิยปริวาส



[140] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว สุภัททปริพาชก
กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่ม
แจ้งนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก บุคคลหงาย
ของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด
ผู้มีจักษุจักเห็นรูปฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศธรรม โดยอเนก
ปริยายฉันนั้นเหมือนกัน ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม
พระภิกษุสงฆ์ว่า เป็นสรณะ ข้าพระองค์พึงได้บรรพชา อุปสมบทในสำนักของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนสุภัททะ ผู้ใดเคยเป็นอัญญเดียรถีย์
หวังบรรพชาอุปสมบทในธรรมวินัยนี้ ผู้นั้นต้องอยู่ปริวาส 4 เดือน. ต่อล่วง 4
เดือนแล้ว ภิกษุทั้งหลายมีจิตยินดีแล้ว จึงให้บรรพชาอุปสมบทเพื่อความเป็น
ภิกษุ แต่ว่าเรารู้บุคคลต่างกันในข้อนี้. สุภัททปริพาชกกราบทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ หากผู้เคยเป็นอัญญเดียรถีย์ หวังบรรพชาอุปสมบทในธรรม
วินัยนี้ จะต้องอยู่ปริวาส 4 เดือน ต่อล่วง 4 เดือนแล้ว ภิกษุทั้งหลายมีจิต
ยินดีแล้ว จึงให้บรรพชาอุปสมบทเพื่อความเป็นภิกษุ ข้าพระองค์จักอยู่ปริวาส
4 ปี ต่อล่วง 4 ปีแล้ว ขอภิกษุทั้งหลายมีจิตยินดีแล้ว จงให้บรรพชาอุปสม-
บทเพื่อความเป็นภิกษุเถิด.